ประวัติกาแฟ: เครื่องดื่มที่นิยมกันทั่วโลก
ประวัติของกาแฟเป็นที่เชื่อกันว่า บรรพบุรุษชาวเอธิโอเปียในปัจจุบันเป็นคนกลุ่มแรก ซึ่งรู้จักผลกระทบของการกระตุ้นประสาทของเมล็ดจากต้นกาแฟ อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานโดยตรงซึ่งชี้ชัดว่าต้นกาแฟมีการปลูกอยู่ที่ใดในทวีปแอฟริกา หรือผู้ใดในกลุ่มชาวพื้นเมือง ซึ่งอาจใช้มันเป็นสารกระตุ้น หรือแม้แต่รู้ถึงผลกระทบนั้น ก่อนหน้าคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรื่องราวของเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งชาวเอธิโอเปียในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซึ่งค้นพบต้นกาแฟนั้นไม่ได้ปรากฏชื่อในงานเขียนจนกระทั่งถึงคริสต์ศักราช 1671 หรืออาจเป็นเพียงเรื่องปลอมเท่านั้น
จากเอธิโอเปียสันนิษฐานว่า กาแฟได้แพร่กระจายไปยังเยเมนที่ซึ่งมีการ ดื่มและผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้น ได้แพร่ไปยังอียิปต์ในขณะที่หลักฐาน ซึ่งเชื่อถือได้สามารถสืบย้อนไปได้ไกลที่สุดถึงการดื่มกาแฟในวิหารซูฟีในมอคค่าในเยเมนที่ซึ่งในอาระเบียได้มีการคั่วและชงเมล็ดกาแฟเป็นครั้งแรกอันเป็นวิธีคล้ายคลึงกับการเตรียมกาแฟภายในคริสต์ศตวรรษที่ 16 กาแฟได้แพร่ขยายไปทั่วถึงตะวันออกกลาง เปอร์เซีย ตุรกีและแอฟริกา
เหนือจากโลกมุสลิมกาแฟได้แพร่ขยายไปยังอิตาลีการค้าขายระหว่างเวนิสกับแอฟริกาเหนือ อียิปต์และตะวันออกกลางที่เจริญขึ้นทำให้อิตาลีได้รับสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงกาแฟด้วยหลังจากนั้น กาแฟก็ได้แพร่กระจายจากเมืองท่าเวนิสไปทั่วยุโรป กาแฟได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้นหลังจากสมเด็จพระสันตะปาปา คลีเมนต์ที่ 8 ลงความเห็นว่ามันเป็นเครื่องดื่มสำหรับคริสเตียนในปีคริสต์ศักราช 1600 แม้ว่าจะมีการร้องเรียนให้ยกเลิกเครื่องดื่มมุสลิมก็ตาม ร้านกาแฟแห่งแรกในทวีปยุโรปเปิดในอิตาลีในปีคริสตศักราช 1645 ชาวดัตช์เป็นชนชาติแรกที่นำเข้ากาแฟเป็นจำนวนมากและฝ่าฝืนข้อห้ามของอาหรับเกี่ยวกับการส่งออกพืชและเมล็ดที่ยังไม่ได้คั่ว
ในภายหลัง ชาวดัตช์จึงได้นำไปปลูกในเกาะชวาและซีลอนจึงผลผลิตกาแฟจากเกาะชวาสามารถส่งไปยังเนเธอร์แลนด์ได้ในปีคริสต์ศักราช 1711 และด้วยความพยายามของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษทำให้กาแฟได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษเช่นเดียวกัน กาแฟเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสในปีคริสต์ศักราช 1657 และเข้าสู่ออสเตรียและโปแลนด์หลังจากยุทธการเวียนนาเมื่อปีคริสต์ศักราช 1683 ซึ่งทหารสามารถยึดเสบียงของทหาร ออตโตมัน เติร์ก ที่พ่ายแพ้ในการรบครั้งนั้น
หลังจากนั้นกาแฟได้เข้าสู่ทวีปอเมริกาเหนือในช่วงยุคอาณานิคม แต่ว่าไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับในทวีปยุโรป อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามปฏิวัติอเมริกาปริมาณความต้องการกาแฟได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกพ่อค้ากับตุนสินค้าเอาไว้และปั่นราคาขึ้นอย่างกะทันหันซึ่งบางส่วนเป็นผลมาจากการที่พ่อค้าชาวอังกฤษไม่สามารถนำเข้าชาได้มากนัก
หลังจากสงครามปี 1812 ในช่วงที่อังกฤษลงการนำเข้าชาเป็นการชั่วคราว ชาวอเมริกันจึงหันมาดื่มกาแฟแทนและมีปริมาณความต้องการสูงมากในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกาไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีการต้มเหล้าทำให้กาแฟกลายเป็นสินค้ายอดนิยมในสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบันแต่ในอังกฤษปริมาณการบริโภคกาแฟกับลดลงและชาวอังกฤษหันไปบริโภคชาแทนระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 เครื่องดื่มชาเป็นเครื่องดื่มซึ่งเตรียมขึ้นได้ง่ายกว่าและหาซื้อได้ในราคาถูกจากการยึดครองอินเดียและอุตสาหกรรมชาในอินเดียของอังกฤษ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น